คล็อปป์ รับไม่มีเกมไหนแย่กว่านัดแพ้ ไบรท์ตัน : PPTVHD36

 

เยอร์เก้น คลอปป์ เซ็ง! เมื่อลิเวอร์พูลไม่สามารถเป็นลิเวอร์พูล

สิ่งแรกที่เยอร์เก้น คลอปป์เน้นเมื่อรับตำแหน่งต่อจากแบรนดัน ร็อดเจอร์สเมื่อตุลาคม 2015 คือวิ่ง เกมแรกของคลอปป์กับลิเวอร์พูล เยือนท็อตแน่ม นั่นคือสิ่งที่นักเตะลิเวอร์พูลทำ อย่างไรก็ตาม ผมเคยเอาตัวเลขที่เดอะ ไทม์ส เปิดเผยไว้มาเล่น คือ ความเข้มข้นต่างๆของลิเวอร์พูล จากเคยเป็น 1 ในอดีต ฤดูกาลนี้ลดแบบต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ระยะทางวิ่งในเกมอยู่ที่ 14 สปริ้นท์อยู่ที่ 16และการวิ่งด้วยความเร็วอยู่ที่ 11 หากเราพิจารณาประกอบกับสถิตินักเตะที่เยอร์เก้น คลอปป์ใช้มากที่สุดนับตั้งแต่คุมลิเวอร์พูล

คือโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โม ซาลาห์ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อลิซง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เจมส์ มิลเนอร์ ฟาบินโญ่และมาติป 3 คนอยู่ลิเวอร์พูลก่อนคลอปป์ เฮนโด้ บ๊อบบี้และมิลลี่ นอกจากนี้ หากจีนี่ ไวนัลดุมและซาดิโอ มาเน่อยู่ 2 คนนี้ติด 10  อันดับแรกของนักเตะลงสนามให้ลิเวอร์พูลมากที่สุดอย่างแน่นอน นั่นบ่งบอกอะไร

8 คนแรกที่เป๊ป กวาดิโอล่า ซื้อเมื่อปี 16-17 มีแค่อิลคาย กุนโดฮานและจอห์น สโตนส์เท่านั้นที่อยู่ในทีมแมนฯ ซิตี้ กุนโดฮานยังเป็นผู้เล่นหลัก ด้วยวัย 32 ปี ส่วนจอห์น สโตนส์ เข้าๆออกๆทีมเพราะซิตี้สลับกองหลังเป็นประจำ กุนโดฮานและสโตนส์คือ 2 จาก 8 คนแรกที่เป๊ปซื้อและยังอยู่กับทีมจนถึงปัจจุบัน นอกนั้นย้ายออกจากทีมหมดสิ้น เควิน เดอ บรอยน์คือคนเดียวที่อยู่กับซิตี้ก่อนเป๊ป10 อันดับแรกของผู้เล่นลงสนามมากสุดให้แมนฯ ซิตี้ฤดูกาลนี้เอแดร์ซ่อน (2017) เดอ บรอยน์ (2015) โรดรี้ (2019) ฮาลันด์ (2022)  กานเซโล่(2019) เบอร์นาโด้(2017) โฟเด้น(2017) กุนโดฮาน(2016)  อาคานจี (2022) และสโตนส์ (2016)

สำหรับลิเวอร์พูล 10  อันดับแรกคือ อลิซง(2018)  โม ซาลาห์ (2017) ฟาน ไดค์(2017)  เทรนท์ (2016)  ฟาบินโญ่(2018) โรเบิร์ตสัน (2017)  เอลเลียตต์ (2021)  ติอาโก้ (2020) ฟีร์มีโน่ (2015) และ เฮนเดอร์สัน (2011) สถิติเฉพาะพรีเมียร์ ลีก 2 ทีมมีอะไรคล้ายๆกัน หากเราไม่นับความสามารถเฉพาะตัว ความแตกต่างในวิธีการเล่น นั่นคือแกนหลักของทีมอยู่กับทีมยาวนาน ลิเวอร์พูลต้องใช้ผู้เล่น 27 คน

ขณะที่แมนฯ ซิตี้ใช้ผู้เล่นแค่ 21 คน เรื่องอายุเฉลี่ย ลิเวอร์พูล 28.3 ปี และแมนฯ ซิตี้ 21.8 ปี ถ้าเราพูดถึงฟอร์มของแมนฯ ซิตี้และลิเวอร์พูล ไม่อยู่ระดับเดิมหรือมาตรฐานเดิมที่ทำได้ แมนฯ ซิตี้ดร็อปลงนิดหน่อย อยู่ในสถานะลุ้นแชมป์  แม้เป๊ปจะบอกว่า เราไม่มีทางได้แชมป์พรีเมียร์ ลีกก็ตาม แต่ลิเวอร์พูล ณ เวลานี้ แค่จะรักษา 10 อันดับแรกยังยาก แมนฯ ซิตี้แพ้แมนฯ ยูฯ แบบที่ครอบบอลเหนือกว่า แต่แท็คติกของแมนฯ ยูฯ เกมนี้ถือว่าโฟกัสถูกจุด สร้างโอกาสยิงได้มากกว่า และซิตี้ผิดมาตรฐานตัวเองคือ เออร์ลิง ฮาลันด์ สัมผัสบอลน้อยมาก 19 ครั้งตลอดเกม และฟิล โฟเด้นสัมผัสบอลน้อยที่สุด 14 ครั้ง

เป๊ปบอกว่า ฮาลันด์มีส่วนร่วมกับเกมน้อยไป

เป๊ปบอกว่า น่าจะต้องหาทางให้ฮาลันด์มีส่วนร่วมกับการบิลด์ อัพของทีมมากขึ้น เพราะเกมกับแมนฯ ยูฯ โดนประกบ และไม่สามารถดึงกองหลังแมนฯ ยูฯให้ออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ นี่คือเกมที่แมนฯ ซิตี้ มีค่า xG ต่ำสุดในฤดูกาล 0.6 ได้มา 1 ประตูถือว่าดีกว่าโอกาสสร้างสรรค์ เพราะยิง 5 ครั้ง เข้ากรอบครั้งเดียว

ขณะที่ลิเวอร์พูล มีค่า xG 1 ในเกมไบรท์ตัน โอกาสดีสุดของทีมอยู่ที่อ๊อกซ์เลด-เชมเบอร์เลน ค่า xG ที่ 0.8 โกดี้ กัคโปและฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์คนละ 0.1 ส่วนโม ซาลาห์ อยู่ที่ 0 จากที่เกมรับไม่ดี พอมีเกมรับมากู้หน้า ตอนนี้เกมรุกก็แย่ ส่วนเกมรับไม่ต้องพูดถึง อลิซงโดนยิงเข้ากรอบ 8 ครั้ง เซฟได้ 5 ขณะที่โรเบิร์ต ซานเชส โดนยิงเข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง และเซฟได้ทั้งหมด

จากเกมล่าสุด 2 ทีมที่สร้างมาตรฐานสูง โดยเฉพาะ 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา และลิเวอร์พูล ฤดูกาลที่แล้ว เล่น 63 นัด ทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ลุ้นแชมป์ครบทั้ง 4 รายการ จนถึงนัดสุดท้าย ฤดูกาลนี้ผลงานแย่กว่าเดิม แมนฯ ซิตี้ ขาดรูเบน ดิอาส นั่นคือส่วนสำคัญ เออร์ลิง ฮาลันด์ฟอร์มฝืดยิงไม่ได้ 3 นัดติด  ส่วนลิเวอร์พูล การขาดกองหน้าคือประเด็นสำคัญ แต่เกมล่าสุด มันคืออะไรแย่ที่สุดแบบเยอร์เก้น คลอปป์พูดจริงๆ ณ เวลานี้ ไม่รู้เหมือนกันว่า คลอปป์จะปรับอย่างไร เกมเอฟเอ คัพกับวูล์ฟส์ อังคารนี้ และเชลซีเที่ยงวันเสาร์ที่จะถึงบอกไม่ได้เลยว่า

ลิเวอร์พูลจะมาทรงไหน และถ้าเล่นแบบดี จะสามารถยกระดับจากแย่สุดขึ้นมาอยู่ระดับท็อปของตัวเองได้หรือไม่ และระดับท็อปของตัวเอง ณ เวลานี้ ก็ไม่น่าจะเหนือกว่าคู่ต่อสู้อีกต่อไป หากเราดูมูลเหตุพื้นฐาน นั่นคืออายุการใช้งานนักเตะ ขนาดซิตี้สดกว่ายังโรย นับประสาอะไรกับลิเวอร์พูล ความโรยราปรากฏชัดมาก นักเตะใหม่สุดในทีมที่ใช้ได้ ก็เด็กเกินไป รองลงไปก็โรยมาจากที่อื่น แม้จะฝีเท้าดีมาคลาสก็ตามการไม่สามารถอัพเกรดผู้เล่นหรือทีมได้ หลังจากได้แชมป์ลีก 2020 คือมูลเหตุสำคัญของปัจจุบัน หลังจากได้แชมป์ลีก ลิเวอร์พูลซื้อนักเตะมาดังนี้

ซิมิกาส ติอาโก้ โชต้า ปิตาลูก้า ไบจ์เซติช เดวิส คาบัค กอร์ดอน โกนาเต้ ดิอาซ นูนเญช แรมซี่ย์ คาร์วัลโญ่ โด้ค อาร์ตูร์ กัคโป  ทั้งหมด 16 คน ปิตาลูก้า คาบัค เดวิส กอร์ดอน แรมซี่ย์ อาร์ตูร์และโดค ไม่น่าจะเข้ามาแล้วยกระดับทีมได้ในปัจจุบันทันด่วน เท่ากับการซื้อล้มเหลวเกือบ 50 % แต่ปิตาลูก้า กอร์ดอม แรมซี่ย์และโด้คคือการซื้อเพื่ออนาคต นั่นยังพอมีหวัง แต่ปัจจุบันล่ะ เพราะทุกทีมวางแผนอนาคต และทำงานเพื่อปัจจุบัน มีใครบ้างที่ก้าวมาเป็นหลัก ติอาโก้ โชต้า ดิอาซ โกนาเต้ ซึ่งเหล่าเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนตลอด พัฒนาการต่างๆของทีมสะดุด ไมเคิ่ล โอเว่นบอกว่า ลิเวอร์พูลต้องค้นหาตัวตน หรือสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ณ เวลานี้ก่อน นั่นคือความจริง